สิ่งสำคัญคือต้องชี้แจงว่าคำว่า “ออทิสติกเทียม” ไม่ใช่การวินิจฉัยทางการแพทย์หรือทางจิตที่เป็นที่ยอมรับ อย่างไรก็ตาม ฉันเข้าใจว่าคุณอาจหมายถึงเด็กที่แสดงอาการคล้ายกับโรคออทิสติกสเปกตรัม (ASD) แต่อาจไม่เข้าเกณฑ์สำหรับการวินิจฉัยโรคออทิสติกอย่างเป็นทางการ เด็กที่แสดงพฤติกรรมออทิสติกเทียมอาจแสดงอาการบางอย่างต่อไปนี้ 1.ความยากลำบากในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม พวกเขาอาจประสบปัญหาในการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมโดยทั่วไป เช่น การสบตา แบ่งปันประสบการณ์ หรือการทำความเข้าใจสัญญาณทางสังคม อย่างไรก็ตาม ปัญหาเหล่านี้อาจไม่เด่นชัดหรือแพร่หลายมากเท่ากับที่พบในเด็กออทิสติก 2.พฤติกรรมซ้ำๆ เช่นเดียวกับเด็กออทิสติก เด็กออทิสติกเทียมอาจมีพฤติกรรมซ้ำๆ เช่น กระพือมือ โยกตัว หรือเรียงสิ่งของต่างๆ พฤติกรรมเหล่านี้อาจใช้เป็นวิธีปลอบใจตัวเองหรือควบคุมอารมณ์ได้ 3.ความท้าทายในการสื่อสาร เด็กออทิสติกเทียมอาจมีปัญหาในการใช้ภาษาและการสื่อสาร เช่น พัฒนาการพูดล่าช้าหรือการใช้ท่าทางจำกัด พวกเขาอาจมีปัญหาในการทำความเข้าใจความแตกต่างทางภาษาหรือการรักษาบทสนทนา 4.ความไวต่อประสาทสัมผัส ปัญหาทางประสาทสัมผัส เช่น ความไวต่อเสียง แสง พื้นผิว หรือกลิ่นบางอย่างมากเกินไป อาจเกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กออทิสติกและเด็กออทิสติกเทียม 5.กิจวัตรหรือพิธีกรรมที่เข้มงวด แม้ว่าจะไม่เข้มงวดเท่าที่เห็นในโรคออทิสติก แต่เด็กออทิสติกเทียมอาจชอบโครงสร้างและการคาดเดาได้ในกิจวัตรประจำวันของพวกเขา พวกเขาอาจจะอารมณ์เสียหรือวิตกกังวลเมื่อกิจวัตรของพวกเขาถูกรบกวน 6.ความสนใจอย่างเข้มข้น เช่นเดียวกับเด็กออทิสติก เด็กออทิสติกเทียมอาจพัฒนาความสนใจอย่างเข้มข้นในหัวข้อหรือวัตถุเฉพาะเจาะจง อย่างไรก็ตาม ความสนใจเหล่านี้อาจไม่แคบหรือครอบคลุมทั้งหมดเท่ากับความสนใจในกลุ่มออทิสติก 7.ความยากลำบากในการเปลี่ยนแปลง เด็กออทิสติกเทียมอาจต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงระหว่างกิจกรรมหรือสภาพแวดล้อม โดยแสดงความวิตกกังวลหรือการต่อต้านเมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักว่าอาการเหล่านี้เพียงอย่างเดียวอาจไม่ได้บ่งบอกถึงความผิดปกติของออทิสติก ปัจจัยอื่นๆ เช่น พัฒนาการล่าช้า ความวิตกกังวล หรือปัญหาการประมวลผลทางประสาทสัมผัส อาจส่งผลต่อพฤติกรรมเหล่านี้ได้ หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการหรือพฤติกรรมของบุตรหลาน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อรับการประเมินอย่างละเอียดและคำแนะนำที่เหมาะสม

ในบรรดาพระเครื่องที่ถือว่าเป็นสุดยอดระดับเบญจภาคี ซึ่งเหล่าบรรดาเซียนพระตัวจริง รวมทั้งนักสะสมของเก่ามืออาชีพ ล้วนแล้วแต่ปรารถนาจะได้ครอบครองไว้เคารพบูชานั้น จะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจาก ‘พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่’ ที่สุดของเครื่องรางของขลังของล้ำค่า มรดกตกทอดตั้งแต่ครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ว่ากันว่าหากใครมีบุญญาวาสนาได้มีโอกาสครอบครอง คนผู้นั้นก็จะได้รับพุทธคุณเมตตามหานิยม แคล้วคลาดจากภยันตราย เพราะองค์พระสมเด็จแท้ จะดลบันดาลให้ปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน ถึงพร้อมไปด้วยวาสนาบารมี ดังนั้นพระสมเด็จแท้จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดพระเครื่อง สนนราคาก็พุ่งขึ้นสูงไปเป็นหลักสิบล้านบาท เปิดเคล็ดดูพระสมเด็จแท้ให้เป็น เซียนพระตัวจริงพลาดไม่ได้ ในปัจจุบัน การจะหาพระสมเด็จแท้ได้นั้นก็จะไม่ใช่เรื่องง่าย ในตลาดพระเครื่องมีการทำจำลองขึ้นมามากมาย แต่พุทธคุณก็ย่อมจะเทียบเท่าองค์พระสมเด็จแท้ไม่ได้โดยสิ้นเชิง ดังนั้นเซียนพระตัวจริงก็จะต้องดูให้เป็นว่า พุทธลักษณะของพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่แท้ ๆ นั้นเป็นอย่างไร สุดยอดของพระเครื่อง โดยเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นพิมพ์ใหญ่แท้ ๆ จะถือเป็นองค์ประธานในชุดพระสมเด็จแท้ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธคุณอันยิ่งใหญ่ เซียนพระทั้งหลายต่างก็ปรารถนาที่จะได้มาครอบครอง โดยตามประวัติความเป็นมานั้น สมเด็จเจ้าพระคุณพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม เป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2409 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 สุดยอดพระเครื่ององค์นี้ สร้างในพุทธศิลป์ลักษณะสมัยรัตนโกสินทร์ โดยมีขนาดฐานกว้าง 2.5 ซม. ยาว 3.6 ซม. และหนา 0.5 ซม. ขึ้นรูปเป็นองค์พระนั่งกรรมฐานปางสมาธิ ประทับบนฐาน 3 ชั้น ใต้ซุ้มเรือนแก้ว วิธีการตรวจสอบลักษณะพระสมเด็จวัดระฆังแท้ ก็จะต้องให้สังเกตดูมวลสารขององค์พระสมเด็จ เพราะพระสมเด็จแท้สร้างขึ้นโดยการนำเอาหินปูนเผาไฟ จากนั้นบดละเอียดเป็นผง แล้วผสมกับน้ำมันตั้งอิ้วของจีน และ สสารมงคลที่ผ่านการปลุกเสกต่าง ๆ ได้แก่ เม็ดพระธาตุ ข้าวสุก เกสรดอกไม้แห้ง ซึ่งลักษณะของมวลสารที่ประกอบเป็นองค์พระ จะสามารถสังเกตเห็นได้จากภายนอก และมักจะมีรอยแยกแตกเล็ก ๆ จากความเก่าคล้ายปูไต่ อยู่รอบ ๆ องค์พระเป็นเอกลักษณ์สำคัญ ดังนั้นวิธีการที่เซียนพระจะสังเกตได้ว่า เป็นพระสมเด็จแท้ นอกจากจะต้องพิจารณาพุทธลักษณะตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว การสังเกตส่องดูมวลสาร อันเป็นองค์ประกอบของพระสมเด็จแท้อย่างละเอียด โดยการมองผ่านแว่นขยายประมาณ 20 เท่าขึ้นไป และก็จะสามารถแยกแยะองค์พระสมเด็จแท้ได้ อีกทั้งด้วยอายุขององค์พระสมเด็จแท้ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี มวลสารจึงเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้เกิดลักษณะจำเพาะที่เป็นของเก่าของโบราณของหายาก ของใหม่จึงไม่สามารถทำเลียนแบบได้ เมื่อท่านเซียนพระได้ทราบรายละเอียดลักษณะของพระสมเด็จแท้เช่นนี้แล้ว ก็คงจะไม่ยากเกินไปในการเลือกพิจารณาเสาะหาพระสมเด็จแท้มาไว้เช่าบูชา เพื่อให้เกิดสิริมงคลกับชีวิตของตนเองได้ต่อไป

หลายคนคงเคยเห็นทารกในต่างประเทศสามารถดำน้ำได้ตั้งแต่แรกเกิด เป็นเรื่องที่ทำเอาพ่อแม่หลายคนใจหายใจคว่ำกันไปเลยทีเดียว และหากมองในอีกมุมนั้นถือเป็นความอัศจรรย์และเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่ติดตัวเด็ก ๆ ถูกเปิดเผยออกมาให้คนทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า ทารกสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด ซึ่งยังมีอีกหลายอย่างที่ถูกซ่อนไว้ เราไปดูกันว่าภายใต้แววตาอันใสซื่อ รอยยิ้มสดใสของทารกแรกเกิดนั้น เขามีอะไรซ่อนอยู่และสามารถทำอะไรได้บ้าง ขาแดนซ์ประจำบ้าน ดนตรีมีในหัวใจของทุกคน แม้กระทั่งทารกแรกเกิดเองก็ตาม พวกเขาสามารถโย้กได้ตามจังหวะอย่างสนุกสนานไม่ต่างจากผู้ใหญ่ แน่นอนว่าสามารถเรียกรอยยิ้มจากพ่อแม่และคนในครอบครัวได้ตลอดเวลา ดำน้ำได้ราวกับเมอร์เมดน้อย เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มากทีเดียวเมื่อเด็ก ๆ ถูกปล่อยลงน้ำทันทีก็ดำน้ำและแหวกว่ายได้แบบไม่จมหรือที่เรียกว่า “ปฏิกิริยารีเฟล็กซ์ระหว่างดำน้ำ” คือการที่ร่างกายของมนุษย์ตัวน้อยอย่างทารกสามารถกลั้นหายใจได้และดำน้ำแบบไม่จำเป็นต้องฝึกเลย ทารกยิ้มได้ตั้งแต่ลืมตาดูโลก เมื่อเขาเกิดมาสิ่งแรกที่พ่อแม่ได้ชื่นใจคือ การทักทายด้วยรอยยิ้มและมนุษย์ก็ถือเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่สามารถยิ้มให้กับพ่อแม่ได้ เจ้าตัวน้อยวัยแรกเกิดยังไม่มีสะบ้าเข่า จริงอยู่ที่ว่าทารกแรกเกิดมามีอวัยวะครบทั้งหมด แต่รู้หรือไม่ร่างกายของเขายังไม่พัฒนาเต็มที่เท่าไหร่นัก จึงยังไม่มีกระดูกสะบ้า ซึ่งเป็นบริเวณหัวเข่า ต้องรอจนกว่าเขาจะเข้าวัย 3-5 ขวบ กระดูกส่วนนั้นจึงจะแข็งแรงดี ทารกตัวน้อยอายุปีแรกฉี่เก่งมากถึง 3,360 ครั้ง ไม่ใช่เรื่องแปลกหากทุก ๆ 20 นาที ลูกน้อยจะร้องไห้โยเย เพราะนั้นเป็นสัญญาณว่าเขาไม่สบายตัว เพราะแพมเพิสเต็ม ซึ่งเกิดจากกระเพาะปัสสาวะยังเล็ก จึงไม่สามารถกักเก็บน้ำได้มากเท่าไหร่นัก อย่างไรเมื่อทราบแล้วก็ลองนำกลับไปสังเกตและทำการเปลี่ยนแพมเพิสให้ลูกน้อย เพื่ออารมณ์แจ่มใสและสุขภาพผิวที่ดี รสหวานกับเปรี้ยวคือรสชาติที่ทารกรู้จัก ในช่วงที่ทารกยังอายุไม่ครบ 4 เดือน เขาจะไม่สามารถรับรสอื่นได้เลยนอกจากหวานและเปรี้ยว หากพ่อแม่อยากเทสการรับรสสามารถทำได้โดยการนำมะนาวมาแตะที่ลิ้นของเขา จะเห็นได้ว่าเจ้าตัวน้อยหลับตาปี๋เพราะเปรี้ยวนั้นเอง เหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาไว้ เพื่อที่จะนำไปปรับใช้กับทารกวัยแรกเกิดและเรียนรู้การเจริญเติบโตไปพร้อม ๆ กัน มีทั้งเรื่องที่ทำให้ยิ้ม หัวเราะ พร้อมกับพิสูจน์ความอดทนของพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดูทารกที่พึ่งลืมตาดูโลก เป็นความท้าทายที่ไม่เกินความสามารถของคำว่าพ่อแม่

ในพระพุทธศาสนา บาป คือ เหตุให้เกิดความบกพร่องทางจิต เช่น เศร้าหมอง ทุกข์ทรมาณ ขุ่นมัว ลังเล สงสัย ว้าวุ่น กังวล เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวคนใครกระทำผู้นั้นย่อมได้รับ บาปไม่สามารถถ่ายทอดส่งต่อไปยังคนอื่นได้ พฤติกรรมที่เรียกว่าบาปตามหลักอกุศลกรรมบถ 10 ได้แก่ ฆ่าสัตว์ คือ การทำให้สิ่งมีชีวิตถึงแก่ความตาย หรือได้รับความทรมาณ เช่น การฆ่าคน,ล้มวัวควาย,การล่าสัตว์,กักขังสัตว์ ทำให้ได้รับความเจ็บปวด เช่น การตีไก่ กัดปลา เป็นต้น ลักทรัพย์ คือ การได้มาซึ่งทรัพย์โดยมิชอบ เช่น ปล้นทรัพย์,คอรัปชั่น,ฉ้อโกง,หลอกลวง,เอาเปรียบ เป็นต้น ประพฤติผิดในกาม คือ การล่วงละเมิดทางเพศโดยไม่ได้รับการยินยอม หรือผิดธรรมเนียมที่ดี เช่น การนอกใจคู่ครอง, การทำอนาจารเด็ก,การข่มขืน ฉุดคร่า อนาจาร ทำให้ได้รับความอับอาย หรือถึงแก่ชีวิต พูดเท็จ คือ การพูดไม่จริง เช่น พูดสร้างเรื่องเอาตัวรอด,ให้การเท็จ, พูดให้ไขว้เขว พูดส่อเสียด คือ การให้ข้อมูลที่ก่อให้เกิดการผิดใจ บาดหมาง เป็นศัตรู เช่น การยุยง,ใส่ร้ายป้ายสี,แปลงสานส์สร้างคลางแคลงใจซึ่งกันและกัน การนินทาว่าร้าย พูดคำหยาบ คือ คำพูดไม่สุภาพที่สร้างอารมณ์ลบรุนแรง เช่น การใช้คำด่า,การสาปแช่ง,ประชดประชัน,เปรียบเทียบกับสิ่งอัปมงคล,ขยี้ปมด้อยคนอื่น พูดเพ้อเจ้อ คือ การพูดที่เอาสาระไม่ได้สร้างความเบื่อหน่ายให้กับผู้ฟัง เช่น อวดอ้างคุณสมบัติของตัวเอง,พูดไม่อยู่บนหลักความเป็นจริง, นอกประเด็นไม่มีแก่นสาร คิดโลภมาก คือ การอยากได้ของคนอื่นโดยไม่ถูกต้อง เช่น ขโมยผลงานเพื่อนเลื่อนขั้นขึ้นเงินเดือนตัวเอง,ได้คืบจะเอาศอก, ไม่รู้จักพอในส่วนแบ่งที่ได้รับ คิดพยาบาท คือ การไม่รู้จักการอภัยและปล่อยวางคิดอาฆาตเอาคืน กระทำเพื่อตอบสนองความพอใจของตนเองเป็นที่ตั้งด้วยวิธีคิดร้ายผู้อื่น เช่น คิดเอาคืนเพื่อนที่หักหลัง, ฆ่าล้างแค้น,ทำให้ทุกข์เสมอกัน มีความเห็นผิด คือ การไม่เชื่อว่าบุญบาปมีจริง ไม่รู้จักว่าการกระทำนั้นๆเป็นบาป เช่น ไม่เชื่อว่าทำดีจะได้ดี, ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม, ไม่ทำบุญไหว้พระ, ไม่รู้จักการให้ ทำอะไรตามใจโดยไม่ต้องลังเลว่าจะทำความเดือดร้อนให้ใคร จงนำ 10 พฤติกรรมก่อบาปข้างต้นมาตรวจการกระทำในปัจจุบันคงมีหลายประการที่เรากำลังทำบาปโดยไม่รู้ตัวแม้การทำบาปนั้น ๆ จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แต่เมื่อรู้แล้วเราสามารถนำมาเป็นบทเรียนกำหนดการกระทำปัจจุบันให้งดเว้นบาปได้ คือ การเลิกทำในสิ่งบาป และละเว้นไม่ยอมทำในสิ่งที่เป็นบาป

เมื่อเราลองมองย้อนไปในไปสมัยก่อนหรือสมัยของ ปูย่า ตายายของเรา จะเห็นได้ว่าบ้านหรือที่อยู่อาศัยจะเป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเล็กหรือใหญ่ เพราะเป็นที่อยู่อาศัยที่พักผ่อนได้ดีที่สุดเมื่อได้เปรียบเทียบกับที่อยู่ต่างๆ บ้านบอกได้เลยว่าเป็นที่อยู่ที่หลับนอนของคนในหลายยุคหลายสมัยมากนานแล้ว ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะบ้านจะสร้างขึ้นด้วยอะไรก็ตาม เชื่อว่าหลายคนนั้นมีฐานะทางการเงินที่ไม่เท่าเทียมกัน การเงินก็เป็นส่วนหนึ่งเลยที่ใช้สร้างที่อยู่ที่หลับนอนของเราได้ และเป็นสิ่งที่สำคัญมากด้วยเช่นกัน เงินจะเป็นตัวกำหนดได้เลยว่าเราจะมีบ้านตามความต้องการได้มากน้อยขนาดไหน ทุกคนล้วนต้องการที่อยู่ที่ดี มั่นคง และปลอดภัย การสร้างบ้าน หากเราไม่มีเงินที่จะสร้างบ้านขึ้นมาได้นั้น เราสามารถที่จะสร้างด้วยสิ่งของที่เราไม่ได้ใช้ หรือไม่ต้องไปหาซื้อเราก็สามารถที่จะสร้างได้ ด้วยคำที่ว่า ฐานะ ของคนเราไม่เท่าเทียมกัน การสร้างบ้านแบบนี้ดูแล้วอาจจะไม่ได้มั่นคงหรือปลอดภัยอะไรมากมายนัก แต่พอที่จะเป็นที่อยู่หลับนอนของผู้คนที่ไม่ค่อยมีฐานะที่ดีมากเท่าไหร่นัก แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม บ้านไม่ว่าจะในยุคในสมัยไหนก็ตามเป็นที่อยู่ที่สำคัญต่อผู้คนทุกคน และไม่จำเป็นเลยที่เราจะต้องมีที่อยู่อาศัยที่เลิศหรูอลังการมากเกินไป ข้อที่อยากจะแนะนำก็คือ เรานำเงินที่จะไปสร้างบ้านให้อลังการนั้นไปทำธุรกิจหรือต่อยอดรายได้ให้ได้มากกว่าเดิมจะดีกว่ามาก เพราะผู้คนในสมัยนี้ไม่ได้คิดถึวเรื่องนี้กันเลยก็ว่าได้ คงเป็นเพราะความต้องการที่มาก สื่อออนไลน์ที่มากมายในสมัยนี้ ความทันสมัยของผู้คน สิ่งต่างๆที่มีให้เห็นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของผู้คน จึงไม่มีใครที่อยากจะใช้ของที่ไม่ทันสมัย เรียกว่าไม่ต้องการของสิ่งเหล่านั้นเลยก็ว่าได้ จะมีแบบบ้านให้เลือกดูอยู่ไม่น้อย ขอยกตัวอย่างแบบบ้านที่สร้างได้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้เงินเยอะเกินไป 1.บ้านหลังคามุงจาก บ้านสไตล์นี้บอกได้เลยว่าเป็นบ้านที่ลงทุนน้อย ใช้สิ่งของหรืออุปกรณ์ไม่มากนัก แถมยังได้แบบบ้านที่ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย ไม่ต้องใช้เงินหลักล้าน ก็สามารถมีที่อยู่ที่ดี คุ้มค่า ประหยัดเงิน แถมยังได้ความเป็นธรรมชาติอีกด้วย สไตล์การตกแต่งบ้านอาจจะเกิดความชอบของตัวเราเอง ออกมาตกแต่งให้บ้านได้ตามสไตล์ที่เราต้องการ ก็สามารถเลือกการตกแต่งได้เลย ไม่ว่าจะเป็นบ้านแบบไหนก็ตาม อย่างแรกเลยจะต้องเกิดจากความชอบ ความต้องการของเราเองเป็นที่หนึ่ง บ้านแบบนี้เชื่อว่าหลายคนอยากจะมีไว้พักผ่อนหย่อนใจกันมากเลยทีเดียว เพราะด้วยอากาศ บรรยากาศต่างๆ ในสมัยนี้เป็นมลพิษมาก ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกที่จะออกแบบบ้านที่ตัวเองต้อง หลับนอน หรืออาศัยนั้นมีความเป็นธรรมชาติให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำออกมาได้ 2.บ้านไม้ เป็นบ้านที่สร้างขึ้นด้วยไม้ ไม่ว่าจะเป็นไม้อะไรก็ตาม อยู่ที่เราชอบ หรือความต้องการทั้งนั้น ว่าเราจะต้องการไม้ที่จะนำมาสร้างบ้าน ไม้ที่ดี และเป็นไม้ยอดนิยมเลยก็คือ ไม้สักนั้นเอง เป็นไม้ที่เรียกได้ว่าอันดับ 1 เลยทีเดียว ในเรื่องของความ คงทน ปลวกไม่กินไม้ แข็งแรง เป็นไม้ที่ดีที่สุด ในบรรดาไม้ทั้งหมดเลย แต่ในส่วนของราคาก็แพงไปตามคุณสมบัติของไม้นั้นเอง เราเลือกไม้ได้แล้วก็นำมาสร้างบ้านได้เลย อยู่ที่การเลือกไม้ของเราว่าอยากได้แบบไหน โดยการสร้างนั้นไม่ต้องสร้างให้ใหญ่มากไป จะเป็นการสิ้งเปลืองเงินเรามากกว่า ให้ดูจำนวนคนในครอบครัว ว่าเยอะหรือน้อยเพียงใด จากนั้นให้สร้างบ้านขึ้นมาให้เหมาะที่สุดกับครอบครัวของเราเอง แค่นี้ก็ได้บ้านที่ประหยัดและเหมาะกับครอบครัวเรามากที่สุด