• เคล็ดลับทำความสะอาดพรมแบบประหยัด ไม่ใช่มืออาชีพก็ทำได้
    น่ารู้ทั่วไป

    เคล็ดลับทำความสะอาดพรมแบบประหยัด ไม่ใช่มืออาชีพก็ทำได้

    พรมเป็นวัสดุปูพื้นที่ใช้ประโยชน์ในด้านการตกแต่งบ้านและออฟฟิศที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและดูหรูหรา รวมทั้งใช้พรมผืนเล็กแบ่งแยกพื้นที่ใช้สอยโดยไม่จำเป็นต้องสร้างผนังกั้นห้อง ข้อเสียคือพรมดักจับไรฝุ่น สิ่งสกปรก แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ แต่ถ้าทำความสะอาดบ่อย ๆ ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับคนที่มีอาการหอบหืด โรคภูมิแพ้ หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานก็ยิ่งสะสมทั้งคราบและกลิ่น อาจมีเชื้อราจากความชื้นด้วย เมื่อสูดดมเข้าไปทุกวัน จะเกิดปัญหาสุขภาพแน่นอน การทำความสะอาดเป็นประจำจึงสำคัญมาก เคล็ดลับการทำความสะอาดพรมด้วยตัวเองด้วยฝีมือระดับมืออาชีพและใช้เวลาน้อยที่เรานำมาฝากกัน มีดังนี้ 1.ดูดฝุ่นบ่อย ๆ พรมปูพื้นที่ใช้แบ่งแยกพื้นที่ มักจะมีขนาดไม่ใหญ่นัก จึงยกออกมาทำความสะอาดได้บ่อยเท่าที่ต้องการ วิธีการทำความสะอาดควรเริ่มจากการดูดฝุ่นเพื่อดึงเอาเศษดิน ฝุ่นผง และสิ่งสกปรกชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เปรียบเสมือนใบมีดเล็ก ๆ คม ๆ ที่ถูกเหยียบย่ำไปมาทำลายเส้นด้ายให้ขาดลุ่ย เครื่องดูดฝุ่นจะดูดเอาสิ่งสกปรกและเศษฝอยต่าง ๆ เข้าไปอยู่ในถุงขยะ ถ้าลงทุนซื้อเครื่องดูดฝุ่นคุณภาพ มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาใช้งานง่าย จะทำความสะอาดสิ่งสกปรกได้บ่อย แนะนำให้ดูดฝุ่นสัปดาห์ละสองครั้ง หรือนานที่สุดคือสัปดาห์ละครั้ง ดูดฝุ่นช้า ๆ กลับไปกลับมาเพื่อให้แน่ใจว่ากำจัดสิ่งสกปรกออกได้มากที่สุด ควรเปลี่ยนหรือล้างตัวกรองในเครื่องดูดฝุ่นทุก 3 เดือน เปลี่ยนถุงขยะเมื่อเต็ม 3 ใน 4 แล้ว 2.ขจัดรอยเปื้อน รอยเปื้อนสกปรกทำให้เกิดรอยหมองคล้ำบนผืนพรมจนดูหมองกว่าส่วนอื่น ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดเพื่อขจัดคราบสกปรกออกให้มากที่สุด ทีมงานผู้เชี่ยวชาญมีเครื่องมือพิเศษมากมายทำความสะอาดพรม รวมถึงการใช้แสง UV ฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่น แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยค่อนข้างแพง ลองมองหาอุปกรณ์ทำความสะอาดด้วยไอน้ำและน้ำยาทำความสะอาดพรมตามร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้านหรือร้านค้าออนไลน์ 3.อย่าใช้สารเคมีอันตราย ถ้าไม่แน่ใจว่าจะล้างออกมาได้หมดจด ให้เลือกใช้น้ำส้มสายชูและน้ำโซดา เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย ใช้ทำความสะอาดคราบเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยใช้ปริมาณเล็กน้อยเทบนพรมบริเวณที่มีคราบ ทิ้งไว้ 15 วินาที ใช้ผ้าซับออกเพื่อให้คราบฝังแน่นจางลงและดูดติดผ้าขึ้นมา ไม่ควรขยี้หรือขัดซึ่งจะทำให้เส้นใยพรมเสียหาย ไม่ควรทำให้พรมเปียกมากเกินไป เพราะพรมเปียกใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะแห้งและถ้าไม่แห้งสนิทจะเกิดเชื้อราได้ 4.กำจัดกลิ่นพรมด้วยน้ำส้มสายชู กลิ่นพรมสกปรกเป็นเรื่องรบกวนใจไปตลอด มักมีสาเหตุจากเศษอาหาร ดินโคลน และเชื้อราที่ติดฝังแน่นกับผืนพรมซึ่งจะก่อมลพิษในอากาศ แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยวิธีง่าย ๆ โดยใช้น้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู จะเติมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงไป 2-3 หยดด้วยก็ได้ ผสมให้เข้ากันแล้วกรอกใส่ขวดสเปรย์ฉีดให้ทั่วพรมปล่อยให้แห้งสนิท ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกเหนือจากการทำความสะอาดเฉพาะจุดตามความจำเป็นแล้ว ถ้าพรมเป็นผืนใหญ่ราคาแพง ควรให้ทีมงานมืออาชีพทำความสะอาดปีละครั้ง แต่ถ้าเป็นผืนเล็กผืนน้อย หากใช้วิธีข้างต้นก็ถือว่าใช้ได้และประหยัดด้วย ช่วยถนอมพรมให้อยู่ในสภาพดีไปนาน ๆ

    Comments Off on เคล็ดลับทำความสะอาดพรมแบบประหยัด ไม่ใช่มืออาชีพก็ทำได้