การดูแลฟันและเหงือกเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลยเพราะจะมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม หากดูแลช่องปากไม่ดี มีฟันผุ และเหงือกอักเสบ อาจเป็นสาเหตุเริ่มต้นของโรคติดเชื้อและโรคเรื้อรังต่างๆ ทุกคนป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน มีเคล็ดลับง่ายๆ ช่วยให้ฟันและเหงือกแข็งแรงมาฝากกัน ดังนี้ หลีกเลี่ยงอาหารทำลายสุขภาพฟัน แป้งและน้ำตาล ของว่างหวานๆ ขนมขบเคี้ยว หรือลูกกวาดที่อมอยู่ในช่องปากเป็นเวลานาน ทำให้เกิดโรคฟันผุ หลีกเลี่ยงน้ำอัดลม ผลไม้ หรือน้ำผลไม้รสเปรี้ยวที่ทำให้เคลือบฟันถูกทำลายและเกิดอาการเสียวฟัน ถ้างดเครื่องดื่มประเภทโซดาและน้ำอัดลมไม่ได้ ลองใช้หลอดดูดแทนจะทำให้เครื่องดื่มสัมผัสฟันน้อยลงช่วยลดการผุกร่อนของฟัน ควรบ้วนปากหลายๆ ครั้งด้วย ส่วนคนที่ชอบเคี้ยวน้ำแข็ง หรือกระดูกควรเลิกทำเพราะเสี่ยงที่จะทำให้ฟันบิ่น ฟันร้าวและแตกหักได้ แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ แปรงฟัน หรือใช้น้ำยาบ้วนปากหลังรับประทานอาหารทุกครั้งเพื่อลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในช่องปากซึ่งเกาะอยู่บริเวณเคลือบผิวฟัน ทำให้เกิดหินปูน ฟันผุ และโรคเหงือก แปรงฟันวันละสองครั้งอาจไม่เพียงพอ แนะนำให้ใช้ไหมขัดทำความสะอาดซอกฟันอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนนอน เพื่อกำจัดคราบพลักและเศษอาหารบริเวณซอกฟันและใต้แนวเหงือกที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง อาหารที่ควรรับประทาน รับประทานอาหารดีๆ ช่วยบำรุงฟันให้แข็งแรง โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสเสริมสร้างกระดูกฟัน เช่น นม ไข่ ผักใบเขียว เต้าหู้ งา อาหารทะเล รวมถึงโยเกิร์ตซึ่งนอกจากแคลเซียมและฟอสฟอรัสแล้ว ยังช่วยระงับกลิ่นปากได้ด้วย อาหารที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงฟัน ได้แก่ โฮลวีท ธัญพืชไม่ขัดสี ผักต่างๆ และผลไม้กรุบกรอบรวมถึงแครอทและแอปเปิลที่มีใยอาหารสูงจะช่วยขัดฟันให้สะอาด ลดการสะสมของแบคทีเรียและคราบหินปูน สำหรับเห็ดหอมเป็นอาหารที่มีประโยชน์ บำรุงฟันให้แข็งแรง ลดแบคทีเรียในช่องปาก พร้อมกับป้องกันเหงือกอักเสบได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำเปล่ามากๆ ยังลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในช่องปากได้อีกทางหนึ่งด้วย เลิกสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่องเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเหงือก เนื่องจากออกซิเจนภายในช่องปากลดลงส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือก เหงือกอักเสบบวมแดง มีเลือดออกขณะแปรงฟัน เกิดกลิ่นปากตามมา เหงือกร่นฟันโยกและหลุดออก หากดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดี ปัญหาอาจลุกลามไปมากกว่าโรคฟันผุและโรคเหงือก เพราะโรคฟันและเหงือกทำให้เจ็บและปวดบวม กินอาหารไม่อร่อย กินได้น้อย เคี้ยวบดน้อยลงทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานหนัก ฟันผุมีกลิ่นปากทำให้ขาดความมั่นใจ ฟันหลอทำให้พูดไม่ชัด และเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาหากไม่ได้รับการรักษา นอกจากการดูแลสุขภาพช่องปากเป็นอย่างดีแล้ว ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันเป็นประจำอย่างน้อยควรตรวจฟันทุก 6 เดือน เพื่อดูแลให้เหงือกแข็งแรงและไม่มีฟันผุ