พระสมเด็จแท้สุดยอดเบญจภาคี เซียนพระตัวจริงต้องดูให้เป็น
Blogging

พระสมเด็จแท้สุดยอดเบญจภาคี เซียนพระตัวจริงต้องดูให้เป็น

ในบรรดาพระเครื่องที่ถือว่าเป็นสุดยอดระดับเบญจภาคี ซึ่งเหล่าบรรดาเซียนพระตัวจริง รวมทั้งนักสะสมของเก่ามืออาชีพ ล้วนแล้วแต่ปรารถนาจะได้ครอบครองไว้เคารพบูชานั้น จะเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจาก ‘พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่’ ที่สุดของเครื่องรางของขลังของล้ำค่า มรดกตกทอดตั้งแต่ครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ว่ากันว่าหากใครมีบุญญาวาสนาได้มีโอกาสครอบครอง คนผู้นั้นก็จะได้รับพุทธคุณเมตตามหานิยม แคล้วคลาดจากภยันตราย เพราะองค์พระสมเด็จแท้ จะดลบันดาลให้ปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน ถึงพร้อมไปด้วยวาสนาบารมี ดังนั้นพระสมเด็จแท้จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดพระเครื่อง สนนราคาก็พุ่งขึ้นสูงไปเป็นหลักสิบล้านบาท

เปิดเคล็ดดูพระสมเด็จแท้ให้เป็น เซียนพระตัวจริงพลาดไม่ได้
ในปัจจุบัน การจะหาพระสมเด็จแท้ได้นั้นก็จะไม่ใช่เรื่องง่าย ในตลาดพระเครื่องมีการทำจำลองขึ้นมามากมาย แต่พุทธคุณก็ย่อมจะเทียบเท่าองค์พระสมเด็จแท้ไม่ได้โดยสิ้นเชิง ดังนั้นเซียนพระตัวจริงก็จะต้องดูให้เป็นว่า พุทธลักษณะของพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่แท้ ๆ นั้นเป็นอย่างไร
สุดยอดของพระเครื่อง โดยเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆังรุ่นพิมพ์ใหญ่แท้ ๆ จะถือเป็นองค์ประธานในชุดพระสมเด็จแท้ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธคุณอันยิ่งใหญ่ เซียนพระทั้งหลายต่างก็ปรารถนาที่จะได้มาครอบครอง โดยตามประวัติความเป็นมานั้น สมเด็จเจ้าพระคุณพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม เป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2409 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 4

สุดยอดพระเครื่ององค์นี้ สร้างในพุทธศิลป์ลักษณะสมัยรัตนโกสินทร์ โดยมีขนาดฐานกว้าง 2.5 ซม. ยาว 3.6 ซม. และหนา 0.5 ซม. ขึ้นรูปเป็นองค์พระนั่งกรรมฐานปางสมาธิ ประทับบนฐาน 3 ชั้น ใต้ซุ้มเรือนแก้ว วิธีการตรวจสอบลักษณะพระสมเด็จวัดระฆังแท้ ก็จะต้องให้สังเกตดูมวลสารขององค์พระสมเด็จ เพราะพระสมเด็จแท้สร้างขึ้นโดยการนำเอาหินปูนเผาไฟ จากนั้นบดละเอียดเป็นผง แล้วผสมกับน้ำมันตั้งอิ้วของจีน และ สสารมงคลที่ผ่านการปลุกเสกต่าง ๆ ได้แก่ เม็ดพระธาตุ ข้าวสุก เกสรดอกไม้แห้ง ซึ่งลักษณะของมวลสารที่ประกอบเป็นองค์พระ จะสามารถสังเกตเห็นได้จากภายนอก และมักจะมีรอยแยกแตกเล็ก ๆ จากความเก่าคล้ายปูไต่ อยู่รอบ ๆ องค์พระเป็นเอกลักษณ์สำคัญ

ดังนั้นวิธีการที่เซียนพระจะสังเกตได้ว่า เป็นพระสมเด็จแท้ นอกจากจะต้องพิจารณาพุทธลักษณะตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว การสังเกตส่องดูมวลสาร อันเป็นองค์ประกอบของพระสมเด็จแท้อย่างละเอียด โดยการมองผ่านแว่นขยายประมาณ 20 เท่าขึ้นไป และก็จะสามารถแยกแยะองค์พระสมเด็จแท้ได้ อีกทั้งด้วยอายุขององค์พระสมเด็จแท้ซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี มวลสารจึงเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้เกิดลักษณะจำเพาะที่เป็นของเก่าของโบราณของหายาก ของใหม่จึงไม่สามารถทำเลียนแบบได้ เมื่อท่านเซียนพระได้ทราบรายละเอียดลักษณะของพระสมเด็จแท้เช่นนี้แล้ว ก็คงจะไม่ยากเกินไปในการเลือกพิจารณาเสาะหาพระสมเด็จแท้มาไว้เช่าบูชา เพื่อให้เกิดสิริมงคลกับชีวิตของตนเองได้ต่อไป