สุขภาพ

  • เรื่องอันตรายจากพิษร้ายควันบุหรี่
    น่ารู้ทั่วไป,  สุขภาพ

    เรื่องอันตรายจากพิษร้ายควันบุหรี่

    บุหรี่เป็นอาวุธร้ายแรงที่ทำลายและพรากชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วน ควันบุหรี่มีพิษร้ายทั้งกับผู้สูบ ผู้สูดดม และสัมผัส บุหรี่มีพิษร้ายอย่างไรไปดูกัน ในควันบุหรี่มีสารเคมีมากกว่า 7,000 ชนิด ซึ่งทางการแพทย์ระบุว่าในจำนวนนี้มากกว่า 60 ชนิดเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นิโคติน โอกาสที่จะได้รับอันตรายจากควันบุหรี่มาจาก 3 ทาง คือ ควันบุหรี่มือหนึ่ง คือ ผู้สูบสูดดมเข้าตัวเอง ควันบุหรี่มือสอง คือควันที่ผู้สูบพ่นออกมา และควันบุหรี่มือสาม คือ เขม่าควันบุหรี่ที่ติดเสื้อผ้า สิ่งของ วัตถุต่าง ๆ ผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มีความเสี่ยงเรื่องใดบ้าง ควันบุหรี่มือสอง เสี่ยงเรื่องใดบ้าง 1. เป็นสาเหตุสำคัญของโรคร้าย – โรคมะเร็งปอด ผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดมากกว่าผู้ที่ไม่สูบราว 10-30 เท่า – โรคหัวใจและหลอดเลือด ทำให้ไขมันจับตัวที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดหัวใจหดตัว การสูบฉีดโลหิตผิดปกติ ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ สมองตายทีละส่วน เกิดโรคสมองเสื่อมตามมา – โรคถุงลมโป่งพอง ทำให้ถุงลมลดความยืดหยุ่น เปราะง่าย และอาจแตกทะลุทำส่งผ่านออกซิเจนไปยังปอดไม่เต็มที่กระทบกับระบบหายใจ – มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคที่เกี่ยวกับหูชั้นกลาง กระตุ้นให้โรคหอบหืดกำเริบ โรคภูมิแพ้ 2. อันตรายกับทารกในครรภ์ แม่ท้องสูบบุหรี่ส่งผลต่อพัฒนาการ และความปลอดภัยของทารก สารนิโคตินในบุหรี่จะถูกส่งผ่านสายรกไปกดการทำงานของสมองส่วนควบคุมการหายใจ และหัวใจทำให้สมองได้รับออกซิเยนไม่เพียงพอมีผลต่อการเติบโต และอาจทำให้เกิดความพิการในเด็กแรกคลอดได้ ทำให้น้ำหนักตัวของลูกลดลง กล่าวคือ แม่สูบบุหรี่วันละ 1 มวน มีผลให้น้ำหนักตัวทารกลดไปจากค่าเฉลี่ย 8-9 กรัม สูบวันละ 10 มวน น้ำหนักตัวเด็กแรกเกิดจะหายไป 8×10 = 80 กรัม หรือน้ำหนักตัวน้อยกว่าเด็กทั่วไป 150-250 กรัม ซึ่งเสี่ยงต่อการรอดชีวิตของทารก 3. อันตรายกับเด็ก เด็กที่อยู่ในครอบครัวสูบบุหรี่ หรืออาศัยอยู่ในย่านที่แวดล้อมด้วยคนสูบบุหรี่ จะเจ็บป่วยบ่อย พบมากในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดลม การหายใจ เช่น เป็นหวัดบ่อย และสะสมจนเป็นโรคดังกล่าวในข้อ 1 ที่สำคัญอาจทำให้เกิดภาวะการตายของทารกเฉียบพลัน (SIDS-Sudden Infant Death Syndrome) นอกจากนี้เด็กยังได้รับพิษจากการสัมผัส หรือสูดดมเสื้อผ้าที่มีเขม่าควันบุหรี่ที่เกิดจากการเผาไหม้ของทาร์หรือน้ำมันดินบ่อย ๆ ซึ่งสามารถรับพิษได้มากกว่าผู้ใหญ่ถึง 2 เท่า รวมถึงคุณแม่ที่สูบบุหรี่ยังส่งต่อพิษไปยังทารกผ่านการให้นมลูก…

    Comments Off on เรื่องอันตรายจากพิษร้ายควันบุหรี่
  • เช็กสัญญาณโรคนอนเกิน
    สุขภาพ

    เช็กสัญญาณ “โรคนอนเกิน” พร้อมข้อเสียของการนอนมากเกินไป

    แม้การนอนหลับจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่แม้จะนอนมากถึง 8-9 ชั่วโมง แต่ยังมีอาการง่วงและอ่อนเพลียระหว่างวัน บางรายอาการหนักจนอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำงาน และสำหรับใครที่กำลังเผชิญปัญหานี้ นอนมากเท่าไหร่ก็ไม่พอเสียที ลองมาเช็กสัญญาณ “โรคนอนเกิน” หรือ Hypersomnia ที่แม้อาจจะฟังชื่อแล้วไม่ใช่โรคร้ายแต่สามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจได้ อาการ “โรคนอนเกิน” เป็นอย่างไร เพราะโรคนอนเกินเป็นโรคชนิดหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้นจึงมีวิธีสังเกตอาการของโรค โดยอาการเล็กน้อยที่สังเกตได้ คือ ตื่นนอนยาก แม้อาบน้ำแล้วก็ยังงัวเงีย ระหว่างวันนอกจากง่วงตลอดเวลาแล้วยังอ่อนเพลีย โดยอาการง่วงสามารถเกิดได้ทุกเมื่อ แม้นั่งอยู่ท่ามกลางวงสนทนาหรือสถานที่ที่มีเสียงดังก็รู้สึกง่วง บางรายมีอาการหนักทำให้หลับระหว่างขับรถจนเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ และบางรายที่มีอาการเหล่านี้ติดต่อเป็นเวลานานจะมีโอกาสพัฒนาเป็นโรคเครียดหรือโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย ข้อเสียของ “โรคนอนเกิน” แน่นอนว่าการนอนหลับพักผ่อนเป็นเรื่องดี เพราะทำให้ร่างกายและจิตใจสดชื่น มีพลังในการทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นต้องเป็นการพักผ่อนอย่างพอดีและเหมาะสมกับช่วงวัย ซึ่งโดยปกติควรพักผ่อนให้ได้ 6-9 ชั่วโมง แต่สำหรับบางคนอาจต้องการพักผ่อนมากกว่านั้น จนทำให้เสี่ยงต่อการเป็น “โรคนอนเกิน” โดยข้อเสียของโรคนี้ คือ ทำให้รู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลียตลอดเวลา จนทำกิจกรรมได้อย่างเชื่องช้า ไม่กระฉับกระเฉง ในอนาคตอาจมีโอกาสเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเพราะร่างกายไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว นอกจากนี้อาการง่วงตลอดเวลาอาจส่งผลเสียต่อชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับรถนาน ๆ หรือผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ง่ายเพราะระบบเผาผลาญช้าลง ไขมันจึงสะสมตามร่างกายง่ายขึ้น เมื่อ “โรคนอนเกิน” เต็มไปด้วยข้อเสียแบบนี้ ใครมีสัญญาณของโรคนี้ ควรปรับพฤติกรรมให้หลับสนิทมากขึ้น เช่น ควรเข้านอนใกล้เคียงเวลาเดิมทุกวัน จัดห้องนอนให้อากาศถ่ายเทเพื่อการนอนหลับสบายไม่อึดอัด หรือบางคนอาจใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ที่มีสรรพคุณช่วยให้หลับสบายและหลับสนิทมากขึ้นก็ได้เช่นกัน สำหรับใครที่ง่วงระหว่างวันบ่อย ๆ แม้จะเป็นวันที่พักผ่อนเพียงพอ แนะนำให้ลองติดตามอาการง่วงของตนเองเป็นระยะ เพราะบางครั้งอาจไม่ใช่อาการง่วงจากการพักผ่อนน้อย แต่เป็นสัญญาณ “โรคนอนเกิน” โรคที่เมื่อได้ยินชื่อแล้วอาจไม่รู้สึกว่าเป็นโรคร้ายแรง แต่ถึงอย่างนั้นกลับเป็นภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม เพราะนอกจากส่งผลต่อการเข้าสังคมแล้ว อาการง่วงระหว่างวันหรือระหว่างขับรถยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้ด้วย

    Comments Off on เช็กสัญญาณ “โรคนอนเกิน” พร้อมข้อเสียของการนอนมากเกินไป
  • ใช้ชีวิตอย่างไรให้สุขภาพดีห่างไกลโรค
    น่ารู้ทั่วไป,  สุขภาพ

    เทคนิคใช้ชีวิตอย่างไรให้สุขภาพดี ห่างไกลจากโรคภัย

    อย่างที่เราทราบกันดีว่าการออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย ช่วยเพิ่มความแข็งแรง เพิ่มสมรรถนะทางร่างกายหลาย ๆ ด้าน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายมาก ๆ แต่สำหรับในบางคนนั้นที่ไม่ชอบการออกกำลังกายรู้สึกว่ามีความเหนื่อย ไม่ชอบที่จะไปเข้ายิม ฟิตเนส หรือไปออกกำลังกายกลางแจ้งร้อน ๆ อย่างเช่น คนที่ชอบดูฟุตบอลผ่านทางทีวีแต่ไม่ชอบลงสนามเอง แน่นอนว่าเพื่อความสะดวกพวกเขามักจะติดตาม โปรแกรมบอลวันนี้ ที่บ้านสบายๆเพื่ออรรถรส ดังนั้นก็ควรที่จะปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ชีวิตเพื่อให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดยเราจะมานำเสนอวิธีการที่จะช่วยให้มีสุขภาพที่ดี ห่างไกลโรค ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน จะมีวิธีที่น่าสนใจยังไงบ้างนั้น ไปดูกันเลย วิธีง่ายๆในการใช้ชีวิตให้ห่างจากโรค วิธีการแรก สำหรับการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี คือการมีกิจกรรมทางกายอย่างเหมาะสม การที่เรารับประทานอาหารเข้าไปในแต่ละวันนั้น ร่างกายของเราจะได้รับพลังงาน ได้รับสารอาหารต่าง ๆ มากมาย สิ่งที่เราต้องปรับให้สมดุลกันก็คือ เราต้องเพิ่มการทำกิจกรรมทางกายเพื่อเผาผลาญแคลอรีต่าง ๆ การทำกิจกรรมทางกายไม่ได้หมายถึงการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียว​ แต่ยังรวมไปถึงการเดิน การเปลี่ยนท่าทาง การทำความสะอาดบ้าน การปลูกต้นไม้ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งถ้ามีการทำกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้อย่างเพียงพอก็สามารถช่วยเผาผลาญแคลอรีต่าง ๆ ได้เช่นกัน ช่วยให้เราห่างไกลจากโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้อีกมากมาย วิธีการที่สอง คือ​ การสร้างเสริมสุขภาพจิตที่ดี การทำจิตใจให้สดชื่น แจ่มใส ปล่อยวาง ลดความวิตกกังวล เนื่องด้วยความเครียดนั้นจะส่งผลเสียต่อร่างกายหลากลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กล้ามเนื้อมีความตึงตัวมากขึ้น เกิดอาการปวดตึง คอ บ่า ไหล่ หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ในบางรายก็มีอาการปวดศีรษะ หน้ามืด เวียนหัว มีอาการปวดท้องได้ เบื้องต้นเราสามารถแก้ไขความเครียดได้ด้วยตนเองโดยการทำจิตใจให้สบาย การนั่งสมาธิ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ให้ร่างกาย กล้ามเนื้อได้มีความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ลดความตึงเครียดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย วิธีการที่สาม คือ การสร้างเสริมสุขภาพในด้านระบบการหายใจและการไหลเวียนเลือด มีกิจกรรมหลาย ๆ อย่างที่เราสามารถทำได้เพื่อเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของปอด ระบบหายใจ ยกตัวอย่างเช่น การปั่นจักรยาน การเดินขึ้นลงบันได การฝึกหายใจให้ถูกวิธี ใช้กล้ามเนื้อหายใจอย่างถูกต้องและเหมาะสม การปรับท่าทางในการหายใจที่ถูกต้อง ก็จะช่วยทำให้เรามีระบบหายใจที่ดีขึ้น จากทั้ง 3 วิธีการด้านบนนั้นถือเป็นวิธีการที่ช่วยในการสร้างเสริมทั้งสุขภาพกายและใจให้มีความแข็งแรง มีสรรถภาพที่ดีขึ้น ซึ่งไม่ได้เป็นการออกกำลังกายหนัก ๆ อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ​ แต่เป็นวิธีการที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง

    Comments Off on เทคนิคใช้ชีวิตอย่างไรให้สุขภาพดี ห่างไกลจากโรคภัย
  • ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุที่บ้าน ให้แข็งแรงอยู่เสมอ
    สุขภาพ

    ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุที่บ้าน ให้แข็งแรงอยู่เสมอ

    ในปัจจุบัน แทบทุกครอบครัวจะมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลประชากรศาสตร์ที่มีกล่าวว่าประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแล้ว จึงจำเป็นที่บุตรหลานต้องดูแลใส่ใจสุขภาพของผู้สูงอายุในบ้านในหลายด้าน เพื่อให้ท่านมีสุขภาพที่แข็งแรงมากที่สุด อาหาร 5 หมู่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับวัยชรา เพราะต้องมีการบำรุงฟื้นฟูร่างกายอยู่เสมอ เพียงแต่ต้องปรับสัดส่วนกลุ่มแป้ง น้ำตาลให้เหมาะสม เลือกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง เผือก ข้าวโพด ฟักทอง ปรุงเป็นอาหารให้รับประทานบ่อย ๆ และเน้นโปรตีนที่ย่อยง่าย เช่น ไข่ไก่ เนื้อไก่ เนื้อปลา ทั้งนี้ควรทำด้วยการนึ่ง ต้ม มากกว่าการทอดที่ใช้น้ำมัน จะดีต่อระบบการย่อยของผู้สูงอายุด้วย การเสริมแคลเซียมเป็นเรื่องจำเป็น โดยเฉพาะเพศหญิง เมื่อไม่มีประจำเดือนแล้วจะขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงทำให้เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน หากเกิดอุบัติเหตุแม้เพียงเล็กน้อยก็จะกระดูกหักง่าย ควรให้รับประทานแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัม คู่กับการให้รับประทานปลาตัวเล็กทอดกรอบหรือดื่มนมเสริมแคลเซียมทุกวัน นอกจากนี้ ผู้สูงอายุก็มักมีปัญหาผิวแห้ง แพ้คันระคายเคืองง่าย ก็ควรเสริมด้วยน้ำมันปลาหรือวิตามินอีขนาดต่ำเป็นประจำด้วย ผู้สูงอายุจะมีความรู้สึกน้อยใจหรือสูญเสียคุณค่าในตัวเองได้ง่าย เนื่องจากไม่ได้ทำงานประจำแล้ว และไม่สามารถสร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้อย่างที่เคย บุตรหลานจึงต้องชื่นชมผู้สูงอายุ และสนับสนุนให้ทำงานอดิเรกหรือทำงานบ้านเล็กน้อยตามกำลัง เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าให้แก่ตัวเอง ลดโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าและคิดมากได้ เราควรเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง การชักชวนผู้สูงอายุให้ไปออกกำลังกายตามสวนสาธารณะต่าง ๆ หรือเข้าชมรมพบปะเพื่อนฝูงอย่างสม่ำเสมอ จะลดความตึงเครียดได้ และยังช่วยสร้างสังคมหลังเกษียณ ที่แม้ผู้สูงวัยแต่ละท่านจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่มักจะเข้ากันได้ดี เนื่องจากมีประสบการณ์ชีวิตที่ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกันได้เพลินเป็นชั่วโมง ๆ ในเรื่องสุขอนามัย เนื่องจากระบบภูมิต้านทานของผู้สูงอายุจะอ่อนแอลง คนในบ้านจึงต้องดูแลความสะอาดร่างกายของท่านให้มากยิ่งขึ้น ไม่ควรให้มีแผลที่บริเวณใด โดยเฉพาะผู้เป็นเบาหวาน เพราะจะติดเชื้อลุกลามง่าย ส่วนเสื้อผ้าและเครื่องนอนก็ต้องหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้มีปัญหาของไรฝุ่นและเชื้อราสะสม ที่จะทำให้ก่อโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น ปอดอักเสบ หอบหืด ได้ วิธีการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุในบ้านที่กล่าวมานั้น เป็นสิ่งที่ทุกบ้านควรศึกษา ทำความเข้าใจและนำไปปรับใช้ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยในบ้านดีขึ้น และหากสังเกตพบความผิดปกติใด ๆ ควรรีบพาไปพบแพทย์ พร้อมนำยาและอาหารเสริมที่ใช้ประจำไปด้วย เพื่อตรวจหาสาเหตุโดยละเอียด

    Comments Off on ดูแลสุขภาพผู้สูงอายุที่บ้าน ให้แข็งแรงอยู่เสมอ
  • สุขภาพ

    สิ่งทำลายสมอง ที่คุณไม่ควรมองข้าม

    ร่างกายของทุกคนประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ ทั้งภายใน เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ม้าม เป็นต้น และภายนอกเป็นโครงสร้างกล้ามเนื้อโดยทุกส่วนของร่างกายจะถูกควบคุมมาจากสมองทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ เราจึงมาบอกเกี่ยวกับหน้าที่การทำงานของสมองพร้อม 5 สิ่งทำลายสมองที่คุณไม่ควรมองข้าม ดังต่อไปนี้ หน้าที่การทำงานของสมอง สมองคือศูนย์กลางการควบคุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การควบคุมการเคลื่อนไหว การเดิน วิ่ง การรับรู้จากการมองเห็นรูปด้วยตา การได้ยินเสียง การสัมผัส รวมถึงการรู้สึกเจ็บ หลายคนคิดว่าความรู้สึกเจ็บมาจากผิวหนัง ในความเป็นจริงได้ถูกแปลงจากจุดศูนย์กลางความเจ็บปวดที่สมองโดยสิ่งภายนอกเป็นเพียงตัวรับเท่านั้น นอกจากนี้สมองยังควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติ ที่ไม่สามารถสั่งได้ด้วยตัวเอง เช่น การเต้นของหัวใจ หายใจ ย่อยอาหาร อุณหภูมิ เป็นต้น สิ่งสำคัญภายในสมองยังประกอบด้วยเซลล์ประสาทที่เรียกว่า นิวรอน ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ทำหน้าที่สนับสนุนการส่งออกซิเจน อาหารและแยกประสาทออกจากกันเพราะการทำงานของสมองเป็นไฟฟ้า ถ้าไม่แยกประสาทจะทำให้ประสาทรวมกันเป็นกระจุกเกิดการช็อตได้ ส่วนที่เหลือก็จะเป็นเนื้อสมอง 85 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสมองฝั่งซ้ายทำหน้าที่เกี่ยวกับการใช้เหตุและผลทำให้สามารถคำนวณ บวก ลบ คูณ หารได้ ส่วนสมองฝั่งขวาเกี่ยวกับอารมณ์ และหากได้มีการเปรียบเทียบสมองคนกับสัตว์จะเห็นได้ว่ามีการแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการต่อสู้ การเคลื่อนไหวเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันในส่วนของเปลือกสมอง เรียกว่า Cerebral Cortex โดยเฉพาะในส่วนของหน้าผาก เพราะมนุษย์จะมีการพัฒนาการเรียนรู้ ความจำ เหตุผลและอารมณ์ คนเราจึงควรทำสิ่งที่มีผลดีต่อสมอง แต่ด้วยภาระหน้าที่การงาน รวมถึงสื่อบันเทิง งานอดิเรก และอื่น ๆ ก็ทำให้หลายคนละเลยการดูแลตัวเอง และมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นผลดีกับสมอง เช่น 1.การไม่รับประทานอาหารมื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อที่สมองมีความต้องการใช้น้ำตาล ไม่ควรที่จะละเลย เพราะจะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำตาลนั่นเอง 2.นอนหลับไม่เพียงพอ เนื่องจากสมองมีการทำงานเป็นไฟฟ้า หากอดนอนจะทำให้เกิดความร้อนสะสมก็จะทำให้สมองเสื่อม หรือฝ่อลงไป ส่วนจำนวนชั่วโมงการนอนในแต่ละคนจะไม่เท่ากัน บางคน 8 ชั่วโมง บางคนแค่ 5 ชั่วโมงก็เพียงพอ ซึ่งจะต้องสังเกตตัวเองว่าตื่นมารู้สึกสดชื่นหรือไม่ ถ้าสดชื่นแสดงว่าการนอนหลับเหมาะสมกับคุณแล้ว นอกจากนี้ควรนอนที่มีอากาศถ่ายเทเพื่อป้องกันไม่ให้สมองขาดออกซิเจน รวมถึงการนั่งสมาธิก่อนนอนจะได้หลับสนิทเพราะได้มีการวิจัยมาแล้วว่า การนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เซลล์ประสาทเพิ่มขึ้น โครงสร้างของสมองมีการพัฒนาตัวทำให้คลื่นสมองดี แสดงให้เห็นว่า การทำงานของสมองเป็นระบบมากขึ้น 3.ใช้สมองขณะไม่สบาย หากฝืนใช้สมองในช่วงป่วยก็จะทำให้ใช้งานสมองมากเกินไปซึ่งเป็นการทำลายสมอง เพราะฉะนั้น หากมีอาการป่วย ก็ควรที่จะหยุดพักสมองจะดีกว่า 4. ขาดการฝึกสมองด้วยการใช้ความคิด ส่งผลให้สมองเสื่อมได้เพราะไม่ได้เกิดการพัฒนาการ หากไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ ควรฝึกสมองอย่างสร้างสรรค์ เช่น ฝึกเล่าเรื่องให้ผู้อื่นฟัง ฝึกบวกลบตัวเลขง่าย…

    Comments Off on สิ่งทำลายสมอง ที่คุณไม่ควรมองข้าม
  • สุขภาพ

    ประโยชน์ดี ๆ จากการดื่มน้ำชา

    การดื่มน้ำชาเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมโบราณที่นิยมมานานหลายร้อยปีทั้งในประเทศทางยุโรปและเอเชีย เช่น จีนและญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันมีการดื่มชาทั้งแบบร้อนและเย็น มีการดัดแปลงสูตรให้ดื่มง่ายและรสชาติหอมอร่อยมากมาย ประโยชน์จากการดื่มน้ำชาเป็นประจำ มีอะไรบ้าง 1. ทำให้หัวใจแข็งแรง การที่หัวใจทำงานดีขึ้นได้จากการดื่มน้ำชาวันละ 3 แก้ว เป็นผลการวิจัยจากต่างประเทศ ซึ่งแนะนำว่าต้องเลือกเป็นชาเพื่อสุขภาพ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลและครีมเทียม หากดื่มเป็นชาร้อน อย่าง ชาคาโมมายล์ ชากุหลาบ ชาขิง จะยิ่งทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น หัวใจจึงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นและยังทำให้การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองดีขึ้น ทำให้ลดอาการตึงเครียดปวดศีรษะได้ด้วย 2. ดีต่อระบบลำไส้ หลายคนที่ดื่มกาแฟแล้วทำให้ท้องผูก แนะนำให้ลองดื่มชาร้อน ๆ แทน โดยเฉพาะชาสูตรสมุนไพรที่มีขิงผสม หรือชาจีนจะช่วยในการขับลมและยังมีฤทธิ์ชำระล้างสารพิษในระบบทางเดินอาหาร ทั้งยังมีสารโพลีฟีนอลที่กำจัดแบคทีเรียชนิดร้ายในลำไส้ได้อีกด้วย ยืนยันได้จากการวิจัยต่างประเทศที่พบว่าการดื่มชาเป็นประจำลดปัญหาโรคลำไส้แปรปรวนได้เป็นอย่างดี 3. ลดความเครียด ในใบชามีสารหลายชนิดที่ช่วยในการกระตุ้นสมอง เช่น คาเฟอีน และยังมีสารกลุ่มโพลีฟีนอล โพแทสเซียม วิตามินบี ฯลฯ ที่เมื่อรวมกันแล้ว ส่งเสริมการทำงานของสมอง ทำให้ลดภาวะปวดหัวไมเกรนที่มักมากับความเครียดที่เกิดกับคนวัยเรียนและวัยทำงานได้ด้วย หากคุณเป็นคนที่เครียดและปวดศีรษะง่าย แนะนำให้ทดลองดื่มชาสูตรหวานน้อยเป็นประจำ แล้วลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงดู 4. ช่วยปรับการเผาผลาญ ในใบชามีสารจากธรรมชาติ ที่ช่วยกระตุ้นอัตราการเผาผลาญไขมันชนิดร้าย คือ คลอเรสเตอรอลในระบบหลอดเลือด และไขมันที่เป็นอันตรายจากการสะสมที่ตับ ทำให้สลายออกไปทางน้ำดีและถ่ายเป็นอุจจาระได้ ทำให้มีหลายแบรนด์ผลิตภัณฑ์ทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยนำชาเป็นส่วนผสม เพื่อการลดไขมันส่วนเกิน ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้สูงอายุและวัยทำงานอย่างมาก 5. ช่วยต้านความชรา ในยอดอ่อนใบชา มีสารกลุ่มต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าช่วยในการปกป้องเซลล์ร่างกายจากสิ่งแวดล้อม สารเคมี สารพิษ ฯลฯ จึงมีการนำมาเป็นส่วนผสมของครีมบำรุงผิวพรรณด้วย การดื่มชาร้อน โดยเฉพาะที่ได้จากส่วนยอดอ่อน จึงเป็นตัวช่วยปกป้องผิวไม่ให้ดูแก่ก่อนวัยได้ เราหวังว่าบทความนี้ จะช่วยให้ทุกท่านได้เห็นประโยชน์ของการดื่มน้ำชาเพื่อสุขภาพมากขึ้น อย่างไรก็ควรเลือกสูตรที่หวานน้อย และทำจากธรรมชาติแท้ เพื่อให้ดีต่อสุขภาพในระยะยาวด้วย

    Comments Off on ประโยชน์ดี ๆ จากการดื่มน้ำชา
  • สุขภาพ

    เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ โรคเบาหวาน สำคัญต้องรีบรู้

    ปัจจุบันองค์การอนามัยโลกเตือนให้ทุกคนใส่ใจสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน ซึ่งพบในคนอายุน้อยลงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป เราจึงรวมสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคนี้มาฝาก เพื่อให้ทุกท่านได้ดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมมากขึ้น ดังนี้ กรรมพันธุ์จาก โรคเบาหวาน โรคเบาหวานไม่ใช่โรคติดเชื้อ แต่มีโอกาสส่งผ่านทางกรรมพันธุ์ เกิดจากตับอ่อนไม่สามารถสร้างฮอร์โมนอินซูลินหรือสร้างได้ในปริมาณที่น้อยเกินไป ทำให้ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูง หากปล่อยไว้จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายแรง เช่น หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตาอักเสบทำให้ตาบอด เส้นประสาทที่ปลายนิ้วมือปลายเท้ามีอาการชาและไม่รับความรู้สึก รวมถึงเส้นเลือดที่ไปไตมีการสูญเสียการทำงานทำให้ไตวายได้ ในเบื้องต้น คนที่เป็นโรคเบาหวานจะมีอาการกระหายน้ำบ่อยผิดสังเกต ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะ 2-3 ครั้ง เริ่มชาปลายนิ้วมือและเท้า มีอาการหน้ามืดเวียนหัวอ่อนเพลียอย่างไม่รู้สาเหตุ หน่วยงานด้านสาธารณสุขจึงแนะนำว่าผู้ที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นเบาหวานและคนทั่วไป ควรเลือดหาระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร หรือตรวจหาค่าน้ำตาลสะสมที่เกาะเม็ดเลือด ที่เรียกว่า Hemoglobin a1c เป็นระยะจะทำให้คัดกรองพบภาวะเบาหวานได้เร็วขึ้น ถ้าเจาะเลือดแล้วพบว่าระดับน้ำตาลสูงมากกว่า 125 มิลลิกรัมต่อเลือด 100 ซีซี หรือค่า Hemoglobin a1c มากกว่า 8% ก็จะแสดงว่าเป็นเบาหวาน ซึ่งต้องปรับพฤติกรรมและอาจต้องใช้ยาร่วมด้วย การปรับพฤติกรรมเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร ต้องงดการดื่มเครื่องดื่มที่มีความหวานสูง เช่น ชานมไข่มุก เครื่องดื่มกาแฟโกโก้ที่ใส่ครีมเทียมและน้ำตาลปริมาณมาก น้ำอัดลม รวมถึง ขนมหวานและผลไม้รสหวานจัด ที่ต้องควบคุมปริมาณให้น้อยลง เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น และควบคุมภาวะเบาหวานได้ยาก ด้านการ ออกกำลังกาย ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้อวัยวะทุกส่วนทำงานได้อย่างสมดุลดียิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่พบในคนเป็นเบาหวานในช่วงวัยกลางคนขึ้นไปด้วย การดูแลความสะอาดของผิวหนังโดยเฉพาะที่เท้า ซอกนิ้ว เล็บ และฝ่าเท้าก็สำคัญ ต้องหมั่นตรวจดูว่ามีบาดแผลเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะคนที่เป็นเบาหวานจะสูญเสียความรู้สึกรับรู้ไป คนเป็นเบาหวานแม้มีการติดเชื้อเพียงเล็กน้อย เช่น เข็มตำ มีดบาด ฯลฯ ก็สามารถติดเชื้อแบคทีเรียลุกลามรุนแรงทำให้ต้องตัดอวัยวะได้ จะเห็นได้ว่าโรคเบาหวานนั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวเราทุกคน การดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคเบาหวานเป็นสิ่งสำคัญ ต้องศึกษาวิธีการสังเกตตัวเองและการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมเป็นประจำ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และยังทำให้ปลอดจากโรคเรื้อรังอื่นๆได้ด้วย

    Comments Off on เรื่องควรรู้เกี่ยวกับ โรคเบาหวาน สำคัญต้องรีบรู้
  • วิธีรับมือกับความเครียด จากชีวิตประจำวัน
    สุขภาพ

    วิธีรับมือกับความเครียด จากชีวิตประจำวัน

    ว่าด้วยเรื่องของความเครียด ทุกสิ่งที่มีชีวิต มีลมหายใจล้วนสามารถเกิดความเครียดได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะคน หรือสัตว์ มีอีกหลายๆสาเหตุ ที่ทำให้เกิดความเครียดได้ และวิธีคลายเครียดของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของบุคคลนั้นๆ ว่าคิดบวกหรือว่าคิดลบ แต่โดยรวมแล้ว ความเครียดไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีในชีวิตเราเลย แต่เราก็ไม่สามารถหลีกหนีกับความเครียดนี้ไปได้ สาเหตุของความเครียด สาเหตุหลักๆของการเกิดความเครียดของมนุษย์เรา คือการดำเนินชีวิต วิถีชีวิตประจำวันของแค่ละคนก็แตกต่างกันออกไป ปัญหาจากการทำงานก็เป็นสาเหตุเด่นๆเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหน ลูกน้อง หัวหน้างาน ผู้บริหาร ไปยันเจ้าของกิจการ แรงกดดัน ค่าจ้าง เพื่อนร่วมงาน ล้วนสร้างความเครียดให้เราได้ตลอด แล้วเราจะรับมือกับความเครียดนี้ได้ยังไง เครียดมากไปเสียสุขภาพจิตหรือเปล่า หรือเครียดจนทำให้เจ็บป่วยไม่สบายนอนโรงพยาบาล บางคนถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตายก็มี เส้นเลือดในสมองแตก เครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ หรืออาจจะเสียสติไปเลยก็มี ทีนี้เราลองมาหาวิธีคลายเครียดกันดีกว่า การฟังเพลง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการคลายเครียด เพลงอะไรก็ได้ที่เราชอบ หรือเพลงที่ฟังแล้วเรารู้สึกมีกำลังใจทุกครั้งที่ได้ยิน การฟังเพลงจะช่วยปรับอารมณ์ให้เย็นลง ยกตัวอย่าง เช่น การเดินทาง ขับรถยนต์ส่วนตัวไปทำงานเองต้องเจอปัญหารถติดเร่งรีบกันทุกคน การเปิดเพลงฟังระหว่างรอจะช่วยให้ผ่อนคลายขึ้น ลดความเครียดลงไปได้เยอะเลย สำหรับคนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะ รถเมย์ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน หรือบริการสาธารณะอื่นๆ ที่จะต้องเจอเป็นประจำเลยคือ ความแออัด อากาศร้อน คนเยอะเบียดเสียดที่เราหลีกเลี่ยงมันไม่ได้ ตัวช่วยคลายเครียดก็คือฟังเพลงใส่หูฟัง รับรองเพลินแบบไม่สนใจใคร หลังจากการทำงานที่คุณเจอความเครียดมาทั้งวัน ถ้าได้กินของอร่อยก็คงจะดีขึ้นนะ การกินก็ช่วยคลายเครียดได้ เลิกงานรวมกลุ่มหาของกินอร่อยๆ นั่งกินนั่งคุยกันจนลืมไปเลยว่าเครียดว่าเหนื่อย บุฟเฟ่ต์จะเยียวยาทุกสิ่ง เป็นวลียอดฮิต ทุกครั้งที่รู้สึกเหนื่อยหรือเครียดเราก็จะนึกถึงคำๆนี้ หายเครียดแน่นอน นี่ก็เป็นแค่บางส่วน ที่เราใช้คลายความเครียดได้ ยังมีอีกหลายๆวิธีที่ทำให้เรามีความสุข กำจัดความเครียด สู้กับปัญหาได้ในทุกๆวัน ยิ้มและยอมรับกับปัญหาและแก้ไขมัน ความเครียดที่เราสร้างมันขึ้นมาไม่ได้ทำให้เรามีความสุขได้ แต่เราเลือกที่จะไม่สร้างมันขึ้นมาได้ ความสุขของเราคนอื่นสร้างให้ไม่ได้ แต่เราสร้างความสุขให้ตัวเราเองได้ ยิ้มสู้มันต่อไป

    Comments Off on วิธีรับมือกับความเครียด จากชีวิตประจำวัน